ในการทำงานด้าน Drafting และงานเขียนแบบไม่ว่าจะเป็นงานสถาปัตย์ งานเครื่องกล งานไฟฟ้า หรืองานออกแบบผลิตภัณฑ์ การเลือกใช้ Line Type ที่ถูกต้องจะช่วยให้แบบมีความชัดเจน อ่านง่าย และสื่อความหมายได้อย่างมืออาชีพ ทั้งยังช่วยเพิ่มความถูกต้องในกระบวนการผลิตอีกด้วย
1. เส้นทึบ (Continuous Line)
เส้นทึบเป็น Line Type ที่ใช้มากที่สุด ใช้แทนเส้นขอบวัตถุจริง ขอบที่มองเห็นได้ รวมถึงเส้นบอกขนาด การใช้เส้นทึบอย่างถูกต้องช่วยให้ผู้อ่านแบบเข้าใจรูปร่างและโครงสร้างของชิ้นงานได้ทันที
2. เส้นประ (Hidden Line)
เส้นประใช้แสดงขอบหรือรายละเอียดที่ถูกซ่อนอยู่ภายในวัตถุ เช่น รูด้านหลัง ช่องว่าง หรือโครงสร้างที่มองไม่เห็น การใช้เส้นประอย่างถูกต้องในงาน Drafting ทำให้ผู้อ่านแบบเห็นภาพรวมของชิ้นงานแบบครบถ้วน
3. เส้นศูนย์กลาง / เส้นแกน (Center Line)
Center Line เป็นเส้นแบบเส้นประสลับเส้นยาว ใช้สำหรับกำหนดแนวแกนของรู วงกลม หรือส่วนโค้งต่าง ๆ การกำหนด Center Line อย่างแม่นยำช่วยให้กระบวนการผลิต เช่น การกลึงและการเจาะงาน มีความถูกต้องสูงขึ้น
4. เส้นขอบตัด (Cutting Plane Line)
ใช้กำหนดบริเวณที่ทำการตัดชิ้นงานเพื่อแสดงภาพ Section ภายใน เส้นประเภทนี้ช่วยเพิ่มความเข้าใจในรายละเอียดเชิงลึกของชิ้นงาน ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในงานออกแบบเครื่องกลและงานก่อสร้าง
5. ทำไมการเลือก Line Type จึงสำคัญ?
- ช่วยให้แบบมีมาตรฐานและอ่านง่าย
- ลดความผิดพลาดในกระบวนการผลิต
- ทำให้การสื่อสารระหว่างผู้ออกแบบและผู้ผลิตมีความเข้าใจตรงกัน
- ส่งเสริมความเป็นมืออาชีพในงาน Drafting
สรุป
การเลือกใช้ Line Type ที่ถูกต้องคือพื้นฐานสำคัญของงานเขียนแบบ เพราะไม่เพียงช่วยให้แบบสื่อสารได้ตรงประเด็น แต่ยังช่วยลดความผิดพลาด เพิ่มคุณภาพ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ออกแบบ การเข้าใจความหมายของแต่ละเส้นจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนในสายงาน Drafting ควรให้ความสำคัญ